เป็นเวลากว่า 5 ปีนับตั้งแต่ยาน Cassini ปลดประจำการและได้จมดิ่งลงสู่ดาวเสาร์ เราก็ไม่เคยได้สำรวจดวงจันทร์ไททัน ดาวบริวารของดาวเสาร์ที่น่าประหลาดใจนี้อีกเลย
จากการศึกษาของยาน Cassini–Huygens เมื่อปี 2004 เราทราบว่าดวงจันทร์ไททันนั้นประกอบไปด้วยพื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยพื้นน้ำแข็ง แม่น้ำและทะเลถูกเติมเต็มไปด้วยไฮโดรคาร์บอนเหลวและชั้นบรรยากาศที่หนาทึบและมีเพียงแสงสลัว ๆ เท่านั้นที่สาดส่องลงสู่ดินแดนเบื้องล่าง ภายหลังจากที่ยาน Huygens ได้เดินทางไปถึงและได้ลงจอดบนพื้นผิว เราก็ได้ทราบว่าสันฐานของดวงจันทร์ไททันแห่งนี้ ภาพแรกที่เรานึกคือทะเลมีเทนที่เติมเต็มตลอดพื้นผิวคล้ายกับที่โลกเราถูกปกคลุมด้วยน้ำ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วไฮโดรคาร์บอนบนดาวส่วนใหญ่ระเหยเป็นไอขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศก่อนที่ตกลงมาเป็นฝนเติมเต็มทะเลสาบบริเวณขั้วของดวงจันทร์ก่อนที่จะระเหยเป็นไออีกครั้งในหน้าแล้ง นอกจากนี้เรายังพบทะเลสาบหลุมยุบขนาดยักษ์ Kraken Mare ที่เกิดจากการระเบิดของมีเทนทำให้แผ่นดินทรุดตัวลงกลายเป็นทะเลสาบขนาดยักษ์ที่กินบริเวณกว้างกว่า 1,170 กิโลเมตรบนผิวดาว
ในปัจจุบันนั้น ทาง ESA ได้เผยแพร่รูปซึ่งถูกถ่ายโดย NirCam หรือ Near Infrared Camera บนกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายในย่านแสงอินฟราเรด จำนวน 2 ภาพซึ่งมีความคมชัดที่สุดที่เคยถ่ายมา โดยภาพแรก (ภาพซ้าย) มีการใช้ Filter พิเศษ เพื่อให้เห็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของดวงจันทร์ไททันได้อย่างชัดเจน ซึ่งในภาพเราจะเห็นกลุ่มเมฆ ในบริเวณ A และ B ในภาพถ่าย รวมถึงกลุ่มหมอกบริเวณขั้วใต้ของดาว ในขณะที่อีกภาพ (ภาพขวา) นั้นเป็นการเอาภาพที่ถ่ายได้จากแสงปกติ ทำให้เรามองเห็นสภาพแวดล้อมตามความเป็นจริงขณะนั้นเพียงแต่จะมองเห็นไม่ได้ชัดเจนเท่ากับภาพแรก แต่ในภาพยังเผยให้เห็นถึง Kraken Mare ที่จะเป็นเป้าหมายในการสำรวจของยานอวกาศในอนาคต หากเราถ่ายภาพในช่วงแสงเดียวกันหลังจากผ่านไป 2 วันเราจะพบกับพลวัตการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศบนดวงจันทร์ไททันแห่งนี้
โดยการสำรวจไททันนั้น ได้เปิดทางสู่การต่อยอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ ที่เน้นศึกษาธาตุองค์ประกอบของดาว บรรยากาศ และหยาดน้ำฟ้า ไปจนถึงการค้นหาความเป็นไปได้ของการมีสิ่งมีชีวิต
อ้างอิง
James Webb Space Telescope view of Saturn’s weirdest moon Titan thrills scientists | Space