• ข่าว
  • เทคโนโลยี
    • หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
    • วิศวกรรม
    • ยานพาหนะ
    • พลังงาน
    • เทคโนโลยีอาหาร
    • เทคโนโลยีการคำนวณ
    • เทคโนโลยีอวกาศ
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
    • วิทยาศาสตร์สุขภาพ
    • ชีววิทยาโมเลกุล
    • วิวัฒนาการ
    • สัตววิทยา
    • พฤกษศาสตร์
    • จุลชีววิทยา
    • กีฏวิทยา
    • นิเวศวิทยา
  • ดาราศาสตร์
    • ฟิสิกส์ดาราศาสตร์
    • จักรวาลวิทยา
    • วิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์
  • อื่น ๆ
    • ศิลปะ & วัฒนธรรม
    • คณิตศาสตร์
    • ประวัติศาสตร์
    • จิตวิทยา
    • ปรัชญา
    • วิทยาศาสตร์การกีฬา
    • Sci-fi
  • ร้านค้า
No Result
View All Result
The Principia
  • ข่าว
  • เทคโนโลยี
    • หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
    • วิศวกรรม
    • ยานพาหนะ
    • พลังงาน
    • เทคโนโลยีอาหาร
    • เทคโนโลยีการคำนวณ
    • เทคโนโลยีอวกาศ
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
    • วิทยาศาสตร์สุขภาพ
    • ชีววิทยาโมเลกุล
    • วิวัฒนาการ
    • สัตววิทยา
    • พฤกษศาสตร์
    • จุลชีววิทยา
    • กีฏวิทยา
    • นิเวศวิทยา
  • ดาราศาสตร์
    • ฟิสิกส์ดาราศาสตร์
    • จักรวาลวิทยา
    • วิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์
  • อื่น ๆ
    • ศิลปะ & วัฒนธรรม
    • คณิตศาสตร์
    • ประวัติศาสตร์
    • จิตวิทยา
    • ปรัชญา
    • วิทยาศาสตร์การกีฬา
    • Sci-fi
  • ร้านค้า
No Result
View All Result
The Principia
No Result
View All Result

เรื่องของหมัดที่ต้อง “กำหมัด”

Thanaset TrairatbyThanaset Trairat
09/01/2023
in Biology, Diseases, Entomology, Health
A A
0
เรื่องของหมัดที่ต้อง “กำหมัด”
Share on FacebookShare on Twitter

     เมื่อเราพูดแค่คำว่า “หมัด” ขึ้นมาหลายคนคงคิดว่าหมายถึงหมัดที่เรา ๆ ท่าน ๆ ใช้ชกต่อย หรือใช้ปกป้องตนเองจากสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย แต่! บทความนี้จะมาพูดถึง “หมัด” ที่เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กซึ่งอาจจะตัวเล็กไม่เท่าจุลินทรีย์ แต่ก็มองด้วยสายตาได้อย่างยากลำบาก

หมัด (flea) ถูกจัดจำแนกอยู่ในกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมลง หรือ ชั้น Insecta ที่รวบรวมเหล่าหมู่มวลแมลงทุกชีวิตเอาไว้ ซึ่งย่อยลงมาจะอยู่ในอันดับ Siphonaptera ซึ่งเป็นอันดับที่ถูกแบ่งออกมาเพื่อหมัดโดยเฉพาะ โดยหมัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่าปรสิตภายนอก (Ectoparasite)

ลักษณะเด่นที่จะมองว่าตัวที่เราเห็นอยู่เป็นหมัดคือ ลำตัวแบนด้านข้าง (Laterally compressed)  ดังภาพที่ 1 ไม่มีตารวม (Compond eyes) เหมือนแมลงที่คุ้นชิน แต่มีตาเดี่ยว (Ocelies) หรือบางชนิดอาจจะไม่มีก็ได้ หนวดมีขนาดสั้นซ่อนอยู่ในโพรงหัว (Antennal fossae) ไม่มีปีกแต่มีการพัฒนาขาปล้อง Coxa ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อใช้ในการกระโดด ปากของหมัดจะพัฒนาออกมาให้เรียวยาวเป็นหลอดรวงเหมือนเข็ม (Stylets) ใช้สำหรับเจาะทะลุผิวหนังของสิ่งมีชีวิตเจ้าบ้าน (Host) ที่มันเข้าไปอาศัยอยู่บนตัวโดยเรียกปากแบบนี้ว่า ปากแบบเจาะดูด (Piercing-sucking type)

ภาพที่ 1 แสดงลักษณะโครงสร้างทั่วไปของหมัด

ที่มา https://link.springer.com/chapter/10.1007/978-1-60327-400-5_5

วงจรชีวิตของหมัดเป็นแบบสมบูรณ์ (Complete metamorphosis) แบ่งเป็น 4 ระยะแก่

1.ไข่ (Egg) จะถูกวางไว้บนตัวสัตว์เจ้าบ้าน (Host) โดยจะติดตามผิวหนังหรือเส้นขนก่อน อาจจะมีโอกาสที่จะร่วงตามแหล่งที่อยู่อาศัย หรือบริเวณที่อยู่ของสัตว์ หรืออาจจะติดตัวสัตว์ไปจนกระทั่งไข่ฟักตัวออกมา โดยทั่วไปจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5 วัน

2.ตัวหนอน (Larva) โดยระยะนี้จะเป็นหนอนแบบ Vermiform คือหนอนจะไม่มีขา ไม่มีตา ตัวสีขาวครีม กินเศษซากสารอินทรีย์ที่อยู่บริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่มันอยู่บริเวณนั้น เช่น เศษผิวหนัง ขน โดยตัวหนอนจะลอกคราบประมาณ 3 ครั้ง ก่อนที่จะเข้าดักแด้

3.ดักแด้ (Pupa) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยที่ขดตัวอยู่แต่มีเปลือกแข็งหุ้มเอาไว้เรียกดักแด้แบบนี้ว่า Exarte คล้าย ๆ กับดักแด้ของ มด ต่อ แตน ผึ้ง หรือ ด้วง แต่หมัดจะมีการนำเศษสารอินทรีย์อย่างเศษผิวหนัง ฝุ่น ต่างๆบริเวณนั้นมาเป็นรังไหมก่อน 1 ชั้น

4.ตัวเต็มวัย (Adult) หมัดตัวเต็มวัยจะไม่มีปีก ตัวเล็ก แบน ขาแข็งแรงสามารถเดินและกระโดดได้ดี เส้นขนและหนามตามตัวหมัดจะลู่ตามแนวจากหัวไปหลัง หัวเล็กแต่ท้องจะขยายกว้าง ตัวเต็มวัยทั้งตัวเพศผู้และเพศเมียกินเลือดเป็นอาหาร มีบางชนิดที่กินเศษซากอินทรีย์ซึ่งน้อยมาก โดยส่วนใหญ่เกือบทุกชนิดกินเลือดเป็นอาหาร

ภาพที่ 2 แสดงรูปแบบวงจรชีวิตของหมัด

ที่มา  https://www.britannica.com/animal/flea/Natural-history

เรื่องที่รู้แล้วถึงกับต้องกำหมัด

นอกจากจะเป็นที่น่าปวดหัวจนอยากจะเอาพาราฉีดเข้าสมองเพียงเพราะอยู่บนตัวสัตว์เลี้ยงอย่าง  แมว หมา ที่บ้านแล้วยังพบที่อยู่ใน หนู ไก่ นก หรือแม้กระทั่ง คน ซึ่งจะคอยสร้างความรำคาญนอกจากจะวิ่งไปมาบนตัว มุดหน้า ซ่อนหลัง หลบซ้าย หักขวา กระโดดหยอง ๆ บนตัวแล้ว ยังดูดเลือดซึ่งทำให้เกิดการ คัน เกา แพ้ตามมา ดังภาพที่ 3

ภาพที่ 3 แสดงรอยกัดจากหมัด

ที่มา https://www.medicinenet.com/flea_bites_in_humans/article.htm

ยังเป็นอีก 1 ในตัวการที่พาพยาธิเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงคนที่หมัดกระโดดเข้าปากไปด้วยโดยเฉพาะเด็กน้อยที่อาจจะมีความเสี่ยงในการสัมผัสสัตว์เลี้ยง และนำมือเข้าปาก อย่างเช่นพยาธิตืดหมัด ชื่อวิทยาสาสตร์คือ Dipylidium caninum สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ภายใน 6 ขั้นตอนคือ

1.สุนัขหรือแมวที่มีพยาธิจะขับแพคเกจปล้องพยาธิพร้อมด้วยไข่พยาธิออกมาผ่านอุจจาระ

2.ปล้องพยาธิจะปล่อยแพคไข่ออกมา

3.ตัวอ่อนของหมัดจะกินไข่พยาธิเข้าไป

4.เมื่อหมัดเข้าสู่ตัวเต็มวัยไข่พยาธิจะเจริญเป็นระยะ Cysticecide

5.สุนัขแมว หรือคนได้รับหมัดที่มาพยาธิเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินอาหาร

6.พยาธิจะเจริญเป็นตัวเต็มวัยและขับลูกหลานออกมาผ่านอุจจาระของสัตว์เจ้าบ้าน (Host)

ภาพที่ 4 แผนผังแสดงวงจรการติดพยาธิตืดหมัด

ที่มา https://www.cdc.gov/dpdx/dipylidium/index.html

นอกจากนี้ยังสร้างความทุกข์ทรมานให้กับคนโดยตัวเมียจะฝังตัวอยู่ใต้ผิวหนังของคนดังภาพที่ 5 อย่างเช่น Tunga penetrans หรือที่เรียกว่า หมัดทราย (Jigger/ Sand flea) ที่จะเจาะใต้ผิวฝ่าเท้าเนื่องจากการเหยียบย้ำดินที่มีหมัดอยู่

ภาพที่ 5 แสดงลักษณะร่องรอยจากการเจาะอาศัยของหมัดทะเลทราย

ที่มา https://woplah.wixsite.com/blog/single-post/2016/11/29/the-fight-against-jiggers

หรือเป็นพาหะนำโรคที่ถึงกับเขย่าประชากรมนุษย์เสมือนกลั่นกรองเฟ้นหาผู้ที่แข็งแกร่งอย่าง กาฬโรค (Plauge) ที่พรากชีวิตคนหลายล้านชีวิตจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่เรียกว่าหมัด

ถ้าแค่นี้ยังกำหมัดไม่พอยังมีโรคนำเสนอจากหมัดอีกนั่นคือ โรคติดเชื้อ Rickettsia อย่าง murine typhus โดยมีอาการคือมีไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกาย ไม่อยากอาหาร  คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ไอผื่นขึ้นตามตัว ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ทั้งในเขตร้อน และอบอุ่น หรือคือสามารถพบได้ในประเทศไทยด้วยนั่นเอง

เป็นอย่างไรบ้าง เห็นหมัดตัวเล็ก ๆ ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดา ซึ่งพอรู้เรื่องของหมัดแล้วถึงกับกำหมัดรึยัง?

อ้างอิง

อนุกรมวิธานแมลง โดย ผศ.ดร. ไสว บูรณพานิชพันธุ์

Medical and Veterinary Entomology

https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=963

https://www.cdc.gov/typhus/murine/index.html

Tags: BiologydiseaseEnyomologyfleaHealth
Thanaset Trairat

Thanaset Trairat

Entomology, Toxicology, and Insect Physiology

Related Posts

ทำไมวาฬถึงตัวใหญ่
Biology

ทำไมวาฬถึงตัวใหญ่

byPeeravut Boonsat
29/01/2023
วัคซีน HIV ล้มเหลวอีกแล้ว
Biology

วัคซีน HIV ล้มเหลวอีกแล้ว

byTanakrit Srivilas
23/01/2023
พวกขึ้เหยียดอาจเป็นเพราะจุลินทรีย์เบียดบัง
Bacteriology

พวกขึ้เหยียดอาจเป็นเพราะจุลินทรีย์เบียดบัง

byPeeravut Boonsat
23/01/2023
นอนบนเตียงระวังโดนดูด (เลือด)
Biology

นอนบนเตียงระวังโดนดูด (เลือด)

byThanaset Trairat
15/01/2023
The Principia

ส่งเสริมสังคมสร้างสรรค์ ด้วยการสื่อสารวิทยาศาสตร์

© 2021 ThePrincipia. All rights reserved.

The Principia Media

About Us
Members
Contact Us
theprincipia2021@gmail.com

Follow us

No Result
View All Result
  • ข่าว
  • เทคโนโลยี
    • หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
    • วิศวกรรม
    • ยานพาหนะ
    • พลังงาน
    • เทคโนโลยีอาหาร
    • เทคโนโลยีการคำนวณ
    • เทคโนโลยีอวกาศ
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
    • วิทยาศาสตร์สุขภาพ
    • ชีววิทยาโมเลกุล
    • วิวัฒนาการ
    • สัตววิทยา
    • พฤกษศาสตร์
    • จุลชีววิทยา
    • กีฏวิทยา
    • นิเวศวิทยา
  • ดาราศาสตร์
    • ฟิสิกส์ดาราศาสตร์
    • จักรวาลวิทยา
    • วิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์
  • อื่น ๆ
    • ศิลปะ & วัฒนธรรม
    • คณิตศาสตร์
    • ประวัติศาสตร์
    • จิตวิทยา
    • ปรัชญา
    • วิทยาศาสตร์การกีฬา
    • Sci-fi
  • ร้านค้า