หลายสิบปีมากนี้ ‘ดาวทะเล’ ที่อยู่อาศัยตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของทวีปอเมริกา กำลังเผชิญกับโรคประหลาดบางอย่าง ที่ทำให้ดาวทะเลมีเนื้อหนังที่นิ่มลง จนยุ่ยละลายไปกับน้ำทะเล ทั้งโรคประหลาดนี้ยังมาแบบเงียบ ๆ ไร้สัญญาณเตือนใด ๆ ด้วย กว่านักวิทย์จะรู้ตัวอีกทีดาวทะเลทานตะวันมากกว่า 90% และดาวทะเลสายพันธุ์อื่นกว่า 20 ชนิดก็เผชิญกับภาวะใกล้สูญพันธุ์ไปเสียแล้ว ไม่ต่างอะไรไปจาก ‘กาฬโรค’ ที่เคยพรากชีวิตมนุษย์หลายล้านคนไปในยุคกลาง
โรคระบาดลึกลับนี้ถูกเรียกกันในแวดวงนักวิจัยว่า ‘Sea Star Wasting Disease’ ซึ่งทำให้ระบบนิเวศใต้ทะเลแปรปรวนไปอย่างมาก เนื่องจากดาวทะเลนั้นเป็นนักล่าสำคัญที่คอยควบคุมจำนวนประชากรของเม่นทะเลไม่ให้มีมากจนเกินไป มิฉะนั้นแล้วเม่นทะเลจะกินสาหร่ายเคลป์ ที่เป็นแหล่งอาหารสำคัญของปลาและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ไปจนหมด จนทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วท้องทะเลได้
เพื่อที่จะทำคามเข้าใจโรคประหลาดนี้มากขึ้น นักวิจัยได้พยายามศึกษาและทำการทดลองมากกว่า 20 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2024 โดยในการทดลองครั้งหนึ่ง นักวิจัยได้วิเคราะห์พันธุกรรมของดาวทะเลที่ป่วยและดาวทะเลที่แข็งแรง เนื่องจากพวกเขาตั้งสมมติฐานว่าโรคประหลาดนี้อาจเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม แต่ก็ยังไม่พบคำตอบของโรคร้ายนี้อยู่ดี
จนกระทั่ง Melanie Prentice นักวิทย์คนหนึ่งในทีมพบการมีอยู่ของแบคทีเรียสายพันธุ์ Vibrio Pectenicida จำนวนมากมายในตู้ดาวทะเลป่วย กลับกันแบคทีเรียพวกนี้กลับแทบไม่พบในตู้ดาวทะเลแข็งแรงเลย ซึ่งเป็นญาติของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอหิวาตกโรคในมนุษย์
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันทีมนักวิจัยยังไม่สามารถทราบที่มาของเชื้อโรคประหลาดพวกนี้ได้ว่าพวกมันเริ่มทำให้เกิกดการระบาดในหมู่ดาวทะเลได้อย่างไร แต่จากหลักฐานหลายอย่างได้บอกใบ้ว่าถึงอุณหภูมิของมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นจากสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
อลิสซา เกห์แมน นักนิเวศวิทยาโรคทางทะเลจากสถาบันฮาไกและมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย หนึ่งในผู้เขียนงานวิจัยฉบับนี้กล่าวว่าการระบาดของโรคประหลาดนี้จะเกิดขึ้นในทุกช่วงปลายฤดูร้อนเสมอ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของอุณหภูมิ และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ กับการระบาดของโรคร้ายดังกล่าว
ในอนาคตทีมวิจัยมีความต้องการที่จะศึกษาว่าเชื้อโรคพวกนี้มีความเฉพาะกับดาวทะเลทานตะวันหรือไม่ เนื่องจากยังมีสัตว์ทะเลอีกหลายชนิดที่อาจได้รับผลกระทบจากโรคนี้ ซึ่งพวกเขาหวังที่จะเพาะพันธุ์ดาวทะเลที่ต้านทานเชื้อก่อโรคนี้เพื่อสร้างภูมิต้านทานของดาวทะเลในอนาคต
