ย้อนกลับไปเมื่อทศวรรษ 1990 ดาวเทียมของนาซ่าตรวจจับอนุภาคพลังงานสูงที่มาจากซูเปอร์โนวาและวัตถุท้องฟ้าอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ได้ตรวจพบแหล่งรังสีแกมมาบนพื้นโลก โดยนักวิจัยในสมัยนั้นสามารถรู้ได้ในทันทีที่ว่าต้นกำเนิดของรังสีแกมมาบนพื้นโลกนั้นมาจากพายุหมุนเขตร้อน แต่ก็ยังคงเป็นปริศนาถึงสาเหตุการเกิด เนื่องจากดาวเทียมไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อส่องวัตถุบนพื้นโลกและดาวเทียมต้องอยู่ในตำแหน่งและเวลาที่ถูกต้องในการศึกษาพายุรังสีแกมมา

Credit: NASA
หลังจากนั้นหลายปีทีมนักวิทยาศาสตร์ได้นำเครื่องบินสอดแนม U2 มาดัดแปลงเพื่อใช้ศึกษาต้นกำเนิดของอนุภาคพลังงานสูงที่ปล่อยออกมาจากพายุหมุนเขตร้อน เนื่องจากเป็นเครื่องบินที่ทำความเร็วและความสูงพอเหมาะต่อการสังเกตุ โดยรายงานการศึกษาพบว่าปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นได้ทั่ว ๆ ไปในพายุหมุนเขตร้อน
สาเหตุของรังสีแกมมาในพายุเกิดมาจากการเสียดสีของหยดน้ำ, น้ำแข็ง และลูกเห็บของพายุคล้ายกับการถูเสื้อกับลูกโป่ง ที่ทำให้ประจุบวกไปกรองรวมตัวกันยอดของพายุและประจุลบจะตกลงมาด้านล่าง ซึ่งทำให้เกิดสนามไฟฟ้าแรงสูงที่มีพลังเท่ากับแบตเตอรี่ AA จำนวน 100 ล้านก้อน ดังนั้นอิเล็กตรอนจึงถูกเหนี่ยวนำภายใต้สนามไฟฟ้าแรงสูงจนเพิ่มความเร็วขึ้น หากอนุภาคมีความเร็วสูงพอจนชนกับโมเลกุลในอากาศ พวกมันก็จะกระแทกอิเล็กตรอนที่มีพลังงานสูงจำนวนมากออกไป ซึ่งกระบวนการนี้ดำเนินไปแบบปฎิกิริยาลูกโซ่จนมีพลังงานสูงเพียงพอจนปลดปล่อยรังสีแกมมา รังสีพลังงานสูงออกมา
สำหรับใครที่กังวลว่าคุณจะกลายเป็นเดอะฮัลก์ในทุกครั้งที่เดินฝ่าพายุเนื่องจากได้รับรังสีแกมมา ขออย่าเป็นกังวลเนื่องจากระดับของรังสีแกมมาไม่ได้รุนแรงจนก่ออันตรายตราบใดที่เราไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งกำเนิด นอกจากนี้เครื่องบินพาณิชย์ส่วนใหญ่จะบินหลีกเลี่ยงพายุ