การลงจอดของยานอาร์ทิมิส 3 นับว่าเป็นความท้าทายหนึ่งที่สำคัญของมนุษยชาติ เนื่องจากเป็น
“การลงจอดดวงจันทร์อีกครั้งในรอบ 50 ปี”
และเป็นการลงจอดในพื้นที่ที่ยังไม่เคยถูกสำรวจมาก่อน ดังนั้นเหล่านักบินจึงต้องมีความเตรียมพร้อมทางร่างกายและการฝึกทักษะก่อนเริ่มต้นภารกิจ
ภาพที่ทุกท่านเห็นอยู่นี้ คือ การซ้อมใหญ่ในเวลากลางคืนเพื่อการจำลองสภาพแวดล้อมที่เคท รูบินส์และ อังเดร ดักลาส นักบินในภารกิจอาร์ทิมิส 3 ต้องเผชิญเมื่อต้องขึ้นไปยังดวงจันทร์ ซึ่งการซ้อมใหญ่นี้ทำขึ้นที่บริเวณทะเลทรายทางตอนเหนือของรัฐแอริโซนา โดยพวกเขาต้องเผชิญกับความมืดมิดที่มีเพียงแสงไฟจากหมวกของชุดนักบินอวกาศเท่านั้นที่คอยนำทางพวกเขาบนเส้นทางที่แสนจะขรุขระและแห้งแล้ง นอกจากตัวนักบินที่ต้องเตรียมความพร้อมในการซ้อมใหญ่แล้วทีมนักวิทยาศาสตร์เองก็ต้องประจำการที่ศูนย์อวกาศจอห์นสัน (JSC) เพื่อจำลองการติดต่อระหว่างนักบินกับศูนย์ที่ภาคพื้นโลก
นอกจากการซ้อมกลางทะเลทรายยามดึกนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เหล่านักบินในภารกิจอาร์ทิมิส 3 ต้องเผชิญกับการทดสอบอีกมากมายทั้ง
ชั้นเรียนธรณีวิทยา เหล่านักบินทุกคนต้องผ่านการฝึกอบรมด้านธรณีวิทยา ทั้งการเรียนในชั้นเรียนและการปฎิบัติภาคสนาม เช่น การออกไปสำรวจโลกบนสถานีอวกาศนานาชาติ และ เดินตามหลุมอุกกาบาตและภูเขาไฟต่าง ๆ โดยซินเธีย อีแวนส์ นักธรณีจาก JSC ผู้นำการฝึกอบรมนี้กล่าวว่าการทดสอบนี้มีขึ้นเพื่อให้นักบินสามารถคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมบนดวงจันทร์ โดยเฉพาะบริเวณลงจอดของยานอาร์ทิมิส 3 นี้เป็นบริเวณที่ไม่เคยถูกสำรวจมาก่อน
Credit: NASA/GSFC/METI/ERSDAC/JAROS, and US/Japan ASTER Science Team
การฝึกกิจกรรมนอกยานพาหนะ (EVA) หรือการทดสอบ JETT5 ทำที่บริเวณใกล้ ๆ SP Creater ที่ปากปล่องภูเขาไฟทางตอนเหนือของแฟลกสตาฟ รัฐแอริโซน่า โดยบริเวณนี้เคยถูกใช้มาแล้วในการทดสอบของนักบินในภารกิจอพอลโล่ ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ซึ่งทีมวิทยาศาสตร์จะสร้างเส้นทางจำลอง 4 เส้นทางแก่นักบินและนักบินต้องส่งสัญญาณวิทยุตอบกลับกับศูนย์ควบคุม รวมทั้งทดลองเก็บตัวอย่างหินกลับมาเพื่อศึกษากระบวนการเกิดพื้นผิว, อายุหิน, ประวัติศาสตร์ของภูเขาไฟ และองค์ประกอบว่ามีความคล้ายกับหินตามแบบจำลองขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์หรือไม่
การทดสอบในความมืด เพื่อจำลองสภาพของขั้วใต้ของดวงจันทร์ที่เป็นจุดลงจอด ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างแหล่งกำเนิดแสงเทียม ๆ อย่างไฟสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ที่มีล้อเลื่อนไปตามภูมิประเทศที่ทดสอบเพื่อการจำลองดวงอาทิตย์ที่จะส่องมายังขั้วใต้ของดวงจันทร์ นักบินจะต้องเดินทางไปบนภูมิประเทศอย่างระมัดระวังในสภาพภูมิประเทศที่มืดสลัวมีเพียงแสงไฟส่วนตัวเพียงสองดวงเท่านั้นที่จะช่วยในการทำงาน รูบินส์หนึ่งในนักบินกล่าวกับศูนย์ควบคุมว่าการมีแสงส่องสว่างที่บริเวณใกล้เท้าน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่ควรมีในการปฎิบัติภารกิจนี้ด้วยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
Credit: NASA/Josh Valcarcel
ในช่วงสุดท้ายของการทดสอบครั้งนี้ หลังจากนักบินใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการเดินทางบนดวงจันทร์จำลอง เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างร้องเฮออกมาดังลั่นห้องปฎิบัติการและร่วมกันซักถามปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบเพื่อพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการที่จะใช้ได้กับนักบินอวกาศ Artemis III
ถึงแม้ว่าต่อจากนี้นาซาอาจมีการทดสอบใหญ่อะไรแบบนี้ไม่บ่อยนะ แต่ข้อมูลที่ได้นี้จะมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งสำหรับภารกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และนาซาเองก็ยังโจทย์อื่น ๆ ที่ต้องแก้ไขและเตรียมความพร้อมของนักบินเพื่อให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้