Hilight
- ความร่วมมือกันทั่วทั้งระบบนิเวศยานยนต์ คือ กุญแจสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงด้านแรงงานที่สำคัญในภาคการผลิตยานยนต์ของประเทศไทย จากเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ไปสู่นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV)
- แพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE และประสบการณ์ Virtual Twin ของแดสสอลท์ ซิสเต็มส์ คือ Game-Changer สำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
- ความร่วมมือระหว่าง แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ และ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย มีเป้าหมายร่วมกันจัดการความท้าทายและเพิ่มโอกาสด้านแรงงานภายในระบบนิเวศยานยนต์ พร้อมกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม
‘แดสสอลท์ ซิสเต็มส์’ (Dassault Systèmes) บริษัท 3DEXPERIENCE ที่นำเสนอโลกเสมือนจริงให้แก่ผู้คนและองค์กรธุรกิจ เพื่อรองรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืน ได้มีการร่วมมือกับ ‘สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย’ (Electric Vehicle Association of Thailand หรือ EVAT) ซึ่งเป็นสมาคมที่ไม่เเสวงหาผลกำไรที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการเเลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท รวมไปถึงการให้คำปรึกษาข้อบังคับมาตรฐาน และการดำเนินงานในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยทั้งสององค์กรมีจุดมุ่งหมายร่วมกันคือการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางยานยนต์ระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่ง
หัวใจสำคัญในเป้าหมายการเปลี่ยนจากฐานการผลิตของประเทศไทยไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม วิจัยและพัฒนาที่เข้มข้นยิ่งขึ้น คือ การเสริมสร้างบุคลากรที่มีทักษะสูงในด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development หรือ R&D) และเทคโนโลยีดิจิทัล ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดในการเป็นผู้นำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยความร่วมมือกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ ได้สานต่อความร่วมมือไปยังสถาบันการศึกษาระดับสูง (Institutions of Higher Learning หรือ IHL) และศูนย์ฝึกอาชีพ (Vocational Training Centre) เพื่อหารือถึงวิธีการในการร่วมกันพัฒนาโปรแกรม “ทักษะแห่งอนาคต หรือ Skills of the Future” อย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ได้รับการพัฒนาโดยเน้นโครงการเป็นศูนย์กลาง (Project Centric) ให้แก่นักวิชาการในสถาบันเหล่านี้ได้ใช้ศักยภาพจากแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกต่างใช้แพลตฟอร์มนี้พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านการจำลองเสมือนจริง (Virtual Twin) และใช้บริหารจัดการวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์
อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันในการเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่น และอยู่บนเป้าหมายนโยบาย 30@30 ของประเทศ ซึ่งเป็นแผนการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย โดยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero-Emission EVs) ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในประเทศ ภายในปี ค.ศ. 2030
บุคลากรที่เป็นรากฐานสำคัญผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์รายใหญ่ของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสามารถสร้างความได้เปรียบให้แก่ประเทศไทยและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของภาคการผลิตยานยนต์ของประเทศไทยจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine, ICE) ไปสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicles, BEVs)
แม้ว่าอาจเกิดความท้าทายในด้านช่องว่างทักษะ แต่ก็มีโอกาสในการเร่งให้ประเทศไทยเป็น EV Hub ที่โดดเด่นระดับภูมิภาค ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการทำงานและการร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา สถาบันอาชีวศึกษา ผู้นำในอุตสาหกรรม และพันธมิตรด้านเทคโนโลยี
แพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE และประสบการณ์ Virtual Twin ของ แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในภาคยานยนต์ ด้วยการวิจัยและพัฒนา แนวคิดในการออกแบบ ด้านวิศวกรรม การผลิต ไปจนถึงบริการหลังการขาย จะช่วยเพิ่มทักษะความสามารถใหม่ ๆ แก่บุคลากร อาทิ การจัดการโครงการ การใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการออกแบบ (Computer-Aided Design หรือ CAD) การใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในกระบวนการผลิต (Computer-Aided Manufacturing หรือ CAM) การทำวิศวกรรมระบบ และการคำนวณโครงสร้างโดยละเอียด นอกจากนี้ยังรวมถึงเทคโนโลยี Immersive และการจำลองระบบที่ซับซ้อน ระบบมัลติฟิสิกส์สำหรับสร้างแบบจำลอง และกระบวนการในการผลิตต่าง ๆ โดยยังมีประสิทธิภาพใช้วางแผนสายการผลิตและการประกอบ (Assembly Line) ไปจนถึงการพัฒนาเป็นโรงงานยุค Industry 4.0
กฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า “ความพยายามในการ Upskill และ Reskill ทักษะต่าง ๆ ให้แก่บุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ เมื่ออุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมไปเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าถือเป็นภารกิจสำคัญของสมาคมฯ เราเชื่อว่าประโยชน์จากแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีดิจิทัลที่ล้ำสมัยของ แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ ๆ ภายในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ และสามารถยกระดับประเทศไทยจากการเป็นศูนย์กลางการผลิต ไปสู่ ศูนย์กลางด้านนวัตกรรม ที่เกี่ยวข้องกับงานออกแบบทางวิศวกรรม การวิจัยและพัฒนาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น”
ผศ. ดร.อุเทน สุปัตติ อุปนายกฯ ฝ่ายการศึกษาและการพัฒนาบุคลากร สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) และหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยการประยุกต์ใช้งานอิเล็กทรอนิกส์กำลังและการจัดการพลังงาน (PEEM) คณะวิศวกรรมศาสตร์ศรีราชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา กล่าวว่า “การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะกำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัลและวิศวกรรมขั้นสูง ซึ่งความร่วมมือของสถาบันการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และผู้ให้บริการเทคโนโลยีโดยเฉพาะการพัฒนาแนวทางการศึกษาเรียนรู้แบบครบวงจรคือคำตอบสำหรับการพัฒนากำลังคนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบุคลากรไม่เพียงได้รับความรู้ทางทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังได้รับทักษะการปฏิบัติที่จำเป็นด้านการออกแบบ พัฒนา และปรับใช้โซลูชันซอฟต์แวร์ขั้นสูงร่วมด้วย โดยสมาคมฯ กำลังศึกษาและเตรียมปรับปรุงหลักสูตรการเรียนรู้ EV เพิ่มเติม ผ่านการร่วมมือกับ แดสสอลท์ ซิสเต็มส์”
เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย Customer Role Experience ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “เมื่อปีที่ผ่านมา เราเป็นพันธมิตรกับ EVAT และร่วมมือกันเชิญชวนสถาบันอาชีวศึกษา รวมทั้งสถาบันการเรียนรู้ในท้องถิ่นมาร่วมสนับสนุนการเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเดิมไปเป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามีองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่สามารถเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรด้วยทักษะที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการในอนาคตของอุตสาหกรรม จากการร่วมมือกันอย่างบูรณาการระหว่างภาควิชาการและผู้มีส่วนได้เสียในระบบนิเวศทั้งหมด ทำให้เราไม่เพียงแต่ขยับลดช่องว่างด้านทักษะเท่านั้น แต่ยังร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เวทีโลกในฐานะศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า”